วันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เทศน์งานฌาปนกิจ คุณแม่บุญทิตย์ สุวรรณสิงห์ 26 กุมภาพันธ์ 2554 ณ เมรุวัดวิเวกธรรมคุณ

ยังกิญจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมนฺติ

            ขอเจริญพรญาติโยมสาธุชนพุทธบริษัททุกท่าน ณ โอกาสต่อจากนี้ไปพอประมาณ ญาติโยมสาธุชนจะได้รับฟังธรรมสังเวช ปรารภเหตุของการวายชน เนื่องจากว่าในวันนี้ ท่านเจ้าภาพ พร้อมด้วยบุตรธิดาและลูกหลาน ตลอดจนญาติสนิทมิตรสหาย ได้มาร่วมกันฌาปนกิจ เพื่ออุทิศคุณงามความดีอันนี้ส่งไปให้แก่ดวงวิญญาณ( ชื่อผู้วายชน) การจากไปของคุณแม่ในครั้งนี้ก็ได้สร้างความเศร้าโศกเสียใจท่านเจ้าภาพและลูกหลานที่อยู่เบื้องหลัง เพราะการจากไปของคุณแม่ในครั้งนี้ เป็นการจากไปอย่างที่ไม่มีวันที่จะหวนกลับ
            มีนักปราชญ์ท่านเคยกล่าวเอาไว้ว่า คนเราทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ เราหนีไม่พ้นความแก่ ความเจ็บ และความตาย ซึ่งเป็นสัจจธรรมที่แท้จริงของชีวิต ดังมีคำกลอนบทหนึ่งที่ท่านกล่าวเอาไว้ว่า
อนิจจา วัตตสังขารา
คนเราเกิดมา นั้นไม่เที่ยงแท้
คืนวันผันผ่าน เวียนผันเปลี่ยนแปร
สุดท้ายแน่ ๆ ต้องสิ้นลมปราณ
            ดังนั้นเราจะเกิดเป็นหญิง เป็นชาย เป็นคนรวย เป็นคนจน หรือจะเป็นคนชาติไหน ๆ สุดท้ายเราก็ไม่อาจหนีจากเงื้อมือของพญามัจจุราชไปได้พ้น
            แต่อย่างไรก็ดีเมื่อพูดถึงผู้วายชน คือคุณแม่(ฯญ) ที่ท่านจากพวกเราไปในวันนี้ อาตมาถือว่าท่านเป็นแม่ที่แท้จริง คือเป็นแม่ที่แท้จริงอยู่ 2 แบบ
1.                                     ท่านเป็นแม่ที่ดีของพระ กล่าวคือ คุณแม่ครั้นเมื่อท่านมีชีวิตอยู่ ท่านจะชอบมาช่วยเหลือวัดตลอด ไม่ว่าจะกิจการงานใด ที่เกี่ยวกับวัดกับวาโดยเฉพาะวัดวิเวกธรรมคุณแล้ว ท่านจะมาช่วยไม่เขยขาด และที่สำคัญคุณแม่มักจะเป็นเจ้าภาพอุปสมบทพระอยู่เสมอ เมื่อมีโอกาสท่านกับคุณพ่อก็จะขอปวารณาเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ก็มีพระอยู่หลายรูปที่ท่านได้ยกบวชบวชให้ แต่ในวันนี้คงไม่ได้เห็นคุณแม่มาร่วมทำกิจกรรม มาร่วมทำบุญที่วัดเหมือนในอดีตอีกแล้ว คงเหลือเพียงแต่ความทรงจำ และคุณความดีทั้งหลายที่คุณแม่ได้สร้างเอาไว้ เป็นเป็นเครื่องเตือนใจให้กับลูกหลานที่เป็นพระภิกษุสามเณรที่อยู่รุ่นหลัง ดังนั้นท่านจึงเป็นแม่ที่ดีของพระเช่นนี้
2.                  ท่านเป็นแม่ที่ไม่ละหน้าที่ต่อลูก คือท่านเป็นแม่ที่ดีของลูกเลี้ยงลูกให้ได้ดับได้ดี ท่านเลี้ยงลูกให้มีการศึกษา เลี้ยงลูกให้อยู่ดีกินดีทุกคน ดังนั้นกว่าที่เราจะมีวันนี้ได้ ก็เพราะใคร เพราะคุณแม่ใช่หรือไม่ ที่ท่านต้องสู้กับความทุกข์ยาก เพื่อที่จะให้ลูกได้อิ่ม เพราะคุณแม่ใช่หรือไม่ ที่ท่านต้องสู้กับความลำบาก เพื่อที่จะให้ลูกได้หลับ เพราะคุณแม่ใช่หรือไม่ ที่ท่านต้องสู้กับอุปสรรค เพื่อให้ลูกได้อยู่สบาย น้ำนมทุกหยดที่แม่ให้ดื่ม ข้าวทุกคำที่แม่ป้อน ทุกคำสอนของท่าน ล้วนมาจากความรักของคุณแม่ที่มีต่อลูกทุกคน
อันรักใดไหนอื่นมีหมื่นแสน 
ไม่เหมือนแม้นแม่รักสมัครหมาย 
รักของแม่คงมั่นตราบวันตาย 
หญิงหรือชายรักเจ้าเท่าดวงมาลย์ 
ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่กรองกลั่น 
เลือดแม่นั้นเลี้ยงหล่อก่อสังขาร 
กว่าจะเป็นตัวตนต้องทนทาน 
ครั้นถึงกาลคลอดเจ้าร้าวระบม 
แม่เจ็บปวดเวียนว่ายชีวาสิ้น 
หรือถวิลคิดใดให้ขื่นขม 
หวังเพียงลูกปลอดภัยได้ชื่นชม 
ก็สุขสมใจแม่อย่างแท้จริง 
ตั้งแต่น้อยจนใหญ่ใครกันเล่า 
ที่ป้อนข้าวป้อนน้ำทำทุกสิ่ง 
จะหนักเบาเจ้าถ่ายไม่ประวิง 
ไม่ทอดทิ้งกอดกกยามตกใจ 
ขวัญเอ๋ยขวัญมาอยู่มาสู่เจ้า 
แม่คอยเฝ้าชูช่วยยามป่วยไข้ 
ยามลูกนอนสายเปลแม่เห่ไกว 
แม้นริ้นไรจะขบกัดแม่พัดวี 
แม่ยอมอดให้ลูกอิ่มก็ยิ้มชื่น 
ทุกวันคืนหวังให้ลูกอยู่สุขศรี 
พระคุณแม่ยิ่งกว่าฟ้าปฐพี 
ชีวิตนี้เกิดมาควรแทนคุณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น